หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ หลักสูตรปรับปรุง
พุทธศักราช 2561 (มคอ.2)
หลักสูตร
ตารางเรียน
1. ชื่อหลักสูตร รหัสลัหสูตร
: 25521831108112
ภาษาไทย : รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์
ภาษาอังกฤษ : Master of Public Administration Program in Public
Administration 2. ชื่อปริญญาและสาขาวิชา ภาษาไทย : รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต
(รัฐประศาสนศาสตร์) : รป.ม. (รัฐประศาสนศาสตร์) ภาษาอังกฤษ : Master
of Public Administration (Public Administration) : M.P.A. (Public Administration)
3. วิชาเอก : ไม่มี ฃ
4. จำนวนหน่วยกิตตามแผนการศึกษาตลอดหลักสูตร 4.1
แผน ก แบบ ก 2 ไม่น้อยกว่า 36 หน่วยกิต 4.2 แผน ข ไม่น้อยกว่า 36 หน่วยกิต 5. รูปแบบของหลักสูตร
5.1
รูปแบบ þ หลักสูตรปริญญาโท
o อื่น ๆ ระบุ
5.2
ภาษาที่ใช้ þ หลักสูตรจัดการศึกษาเป็นภาษาไทย
o หลักสูตรจัดการศึกษาเป็นภาษาต่างประเทศ
(ระบุภาษา) ....................
o
หลักสูตรจัดการศึกษาเป็นภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ (ระบุภาษา)
....................
5.3
การรับเข้าศึกษา þ รับเฉพาะนักศึกษาไทย
o รับเฉพาะนักศึกษาต่างชาติ
o รับทั้งนักศึกษาไทยและนักศึกษาต่างชาติ
5.4
ความร่วมมือกับสถาบันอื่น þ เป็นหลักสูตรของมหาวิทยาลัยโดยเฉพาะ
o
เป็นหลักสูตรที่ได้รับความร่วมมือสนับสนุนจากสถาบันอื่น
Þ ชื่อสถาบัน……………………………………………………………………………..
Þ รูปแบบของความร่วมมือสนับสนุน……………………………………………
o เป็นหลักสูตรร่วมกับสถาบันอื่น
Þ
ชื่อสถาบัน……………………ประเทศ.........……………………………..
Þ รูปแบบของการร่วม
o ร่วมมือกัน โดยสถาบันฯ เป็นผู้ให้ปริญญา
o ร่วมมือกัน โดยสถาบันฯ อื่น เป็นผู้ให้ปริญญา
o ร่วมมือกัน โดยผู้ศึกษาอาจได้รับปริญญาจาก 2
สถาบันหรือมากกว่า
5.5
การให้ปริญญาแก่ผู้สำเร็จการศึกษา กรณีหลักสูตรเฉพาะของสถาบัน
þ ให้ปริญญาเพียงสาขาวิชาเดียว
o ให้ปริญญามากกว่าหนึ่งสาขาวิชา
กรณีหลักสูตรร่วมกับสถาบันอื่น
o ให้ปริญญาเพียงสาขาวิชาเดียว
และเป็นปริญญาของแต่ละสถาบัน
o ให้ปริญญาเพียงสาขาวิชาเดียว
และเป็นปริญญาร่วมกับ..............................................
o ให้ปริญญามากกว่าหนึ่งสาขาวิชา
6.
สถานภาพของหลักสูตรและการพิจารณาอนุมัติ/เห็นชอบหลักสูตร þ หลักสูตรปรับปรุง พุทธศักราช 2561
ปรับปรุงจากหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์
(หลักสูตรปรับปรุง 2556)
þได้ผ่านการกลั่นกรองหลักสูตรโดยคณะกรรมการการบริหารคณะรัฐประศาสนศาสตร์
ในการประชุมครั้งที่ 4 ปีการศึกษา 2560 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2560
þ
ได้รับการวิพากษ์หลักสูตรโดยคณะกรรมการที่มีผู้ทรงวุฒิตรงสาขาวิชาจากภายนอกในการประชุม
เมื่อวันที่ 23 กันยายน พ.ศ.2560
þ
ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการวิชาการระดับบัณฑิตศึกษาประจำมหาวิทยาลัย
ในการประชุมครั้งที่ 3 ปีการศึกษา 2560 เมื่อวันที่ 11ตุลาคม พ.ศ.2560
þ ได้รับอนุมัติหลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.2561
จากสภามหาวิทยาลัยพิษณุโลก ในการประชุมครั้งที่ 4ปีการศึกษา 2560 เมื่อวันที่ 15กุมภาพันธ์พ.ศ.2561
þ เปิดสอนภาคการศึกษา 1 ปีการศึกษา 2561
7.
ความพร้อมในการเผยแพร่หลักสูตรที่มีคุณภาพและมาตรฐาน หลักสูตรได้รับการเผยแพร่เป็นหลักสูตรที่มีคุณภาพและมาตรฐานตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับบัณฑิตศึกษา
สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ พ.ศ.2558 ในปีการศึกษา 2563
8. อาชีพที่สามารถประกอบได้หลังสำเร็จการศึกษา 8.1
อาจารย์ผู้สอนสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ 8.2
วิชาชีพที่ใช้ความรู้รัฐประศาสนศาสตร์ในการพัฒนางาน เช่น ข้าราชการตำรวจ
ทหาร เป็นต้น 8.3
นักการเมืองท้องถิ่นและส่วนราชการ 8.4
เจ้าหน้าที่ปกครองส่วนท้องถิ่น
10. สถานที่จัดการเรียนการสอน จัดการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยพิษณุโลก เลขที่ 93 หมู่ 5 ตำบลสมอแข
อำเภอเมือง
จังหวัดพิษณุโลก 65000
11.
สถานการณ์ภายนอกหรือการพัฒนาที่จำเป็นต้องนำมาพิจารณาในการวางแผนหลักสูตร
11.1
สถานการณ์หรือการพัฒนาทางเศรษฐกิจ
การวางแผนพัฒนาปรับปรุงหลักสูตรได้ดำเนินการให้เป็นไปตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ฉบับที่ 11 (2555-2559) ซึ่งกล่าวถึง
การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีในยุคโลกาภิวัฒน์
ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก มีการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี
รวมทั้งการขยายตัวของประชาคมอาเซียน
ส่งผลต่อรูปแบบการดำเนินชีวิตในสังคมของประชาชาติ
จึงจำเป็นต้องมีนักปกครองที่มีประสิทธิภาพมีนักกฎหมายที่มีศักยภาพและคุณภาพที่จะให้การช่วยเหลือ
ส่งเสริมสนับสนุนให้เศรษฐกิจการเมืองการปกครอง และประเทศชาติบ้านเมืองเป็นพลวัต
มีการขับเคลื่อนสู่ความเป็นสากลเป็นที่ยอมรับของอาณาประเทศ
จึงจำเป็นต้องจัดหาหลักสูตรการศึกษาให้สอดรับกับความต้องการบุคลากรของประเทศและทันต่อการเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างของสังคม
การเมือง และการปกครอง 11.2 สถานการณ์หรือการพัฒนาทางสังคมและวัฒนธรรม
การวางแผนพัฒนาปรับปรุงหลักสูตรคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงด้านสังคมในยุคโลกาภิวัฒน์และความต้องการของตลาดแรงงานเป็นสำคัญ
รวมทั้งการคำนึงถึงขีดความสามารถในการบริหารจัดการระบบการศึกษาของไทยที่มีนโยบายด้านการมีส่วนร่วมต่อสังคมและวัฒนธรรมในรูปแบบของการรับผิดชอบต่อสังคม
ซึ่งในปัจจุบันในหลาย ๆ
ประเภทก็ได้มีการให้ความสำคัญและในประเทศไทยก็มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องต่อความต้องการใช้งานบุคลากรที่มีความรู้สมัยใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการพัฒนาทางสังคมและวัฒนธรรม
ซึ่งจะนำไปสู่สังคมที่มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ทำให้เกิดความเข้มแข็งและการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้จำเป็นจะต้องใช้นักการปกครองที่ดี
สามารถตระหนักรับรู้ถึงความรับผิดชอบต่อสังคม
และการสร้างวัฒนธรรมองค์การที่มีคุณธรรมจริยธรรมที่จะช่วยชี้นำและขับเคลื่อนให้การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นไปในรูปแบบที่สอดคล้องและเหมาะสมกับวัฒนธรรมไทย
ทั้งในด้าน
วิถีชีวิตทางการศึกษาและวิถีความคิดแบบสังคมไทยที่สามารถอยู่ร่วมกับนานาอารยประเทศได้
12. ผลกระทบจากข้อ 11
ต่อการพัฒนาหลักสูตรและความเกี่ยวข้องกับพันธกิจของสถาบัน
12.1 การพัฒนาหลักสูตร
เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว
และมีการรวมกลุ่มประเทศ เพื่อการสร้างประชาคมความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการปกครอง
ทั้งในระดับภูมิภาค ทวีป และโลก จึงมีความสำคัญและจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงหลักสูตรให้มีความทันสมัยเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงและตอบสนองความต้องการศึกษาของคนภายในประเทศและประชาคมต่างประเทศตามช่วงเวลาที่เหมาะสม
12.2 ความเกี่ยวข้องกับพันธกิจของสถาบัน
มหาวิทยาลัยพิษณุโลกมีพันธกิจที่สำคัญคือการผลิตบัณฑิต
และพัฒนาบุคลากรในท้องถิ่น ให้มีความรู้และสมรรถนะตามวัตถุประสงค์ความต้องการของสังคมและผู้ใช้บัณฑิต
โดยเฉพาะบัณฑิตและบุคลากรสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ที่จะนำความรู้ความสามารถของสาขาวิชาไปใช้ในการบริหารจัดการชุมชนท้องถิ่นและองค์กรต่าง
ๆ ให้มีประสิทธิภาพและเกิดความเข้มแข็งเติบโตอย่างยั่งยืน
13.
ความสัมพันธ์กับหลักสูตรอื่นที่เปิดสอนในคณะ/ภาควิชาอื่นของสถาบัน (1)
ทุกรายวิชาในหลักสูตรหมวดวิชาเฉพาะรัฐประศาสนศาสตร์ไม่มีคณะ/ภาควิชาอื่นนำไปกไหนดในหลักสูตรของคณะ/ภาควิชา (2)
มีบางรายวิชาจากคณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการจัดการ และจากคณะบัญชี
ที่หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิตนำมาเป็นวิชาเลือก (3)
หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิตจำเป็นต้องใช้อาจารย์จากหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต
และหลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา
ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรมาเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาร่วมวิทยานิพนธ์และการค้นคว้าอิสระ
(IS)
1. ชื่อหลักสูตร รหัสลัหสูตร
: 25521831108112
ภาษาไทย : รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์
ภาษาอังกฤษ : Master of Public Administration Program in Public
Administration
2. ชื่อปริญญาและสาขาวิชา ภาษาไทย : รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต
(รัฐประศาสนศาสตร์)
: รป.ม. (รัฐประศาสนศาสตร์)
ภาษาอังกฤษ : Master
of Public Administration (Public Administration)
: M.P.A. (Public Administration)
3. วิชาเอก : ไม่มี
4. จำนวนหน่วยกิตตามแผนการศึกษาตลอดหลักสูตร 4.1
แผน ก แบบ ก 2 ไม่น้อยกว่า 36 หน่วยกิต
4.2 แผน ข ไม่น้อยกว่า 36 หน่วยกิต
5. รูปแบบของหลักสูตร
5.1
รูปแบบ þ หลักสูตรปริญญาโท
o อื่น ๆ ระบุ
5.2
ภาษาที่ใช้ þ หลักสูตรจัดการศึกษาเป็นภาษาไทย
o หลักสูตรจัดการศึกษาเป็นภาษาต่างประเทศ
(ระบุภาษา) ....................
o
หลักสูตรจัดการศึกษาเป็นภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ (ระบุภาษา)
....................
5.3
การรับเข้าศึกษา þ รับเฉพาะนักศึกษาไทย
o รับเฉพาะนักศึกษาต่างชาติ
o รับทั้งนักศึกษาไทยและนักศึกษาต่างชาติ
5.4
ความร่วมมือกับสถาบันอื่น þ เป็นหลักสูตรของมหาวิทยาลัยโดยเฉพาะ
o
เป็นหลักสูตรที่ได้รับความร่วมมือสนับสนุนจากสถาบันอื่น
Þ ชื่อสถาบัน……………………………………………………………………………..
Þ รูปแบบของความร่วมมือสนับสนุน……………………………………………
o เป็นหลักสูตรร่วมกับสถาบันอื่น
Þ
ชื่อสถาบัน……………………ประเทศ.........……………………………..
Þ รูปแบบของการร่วม
o ร่วมมือกัน โดยสถาบันฯ เป็นผู้ให้ปริญญา
o ร่วมมือกัน โดยสถาบันฯ อื่น เป็นผู้ให้ปริญญา
o ร่วมมือกัน โดยผู้ศึกษาอาจได้รับปริญญาจาก 2
สถาบันหรือมากกว่า
5.5
การให้ปริญญาแก่ผู้สำเร็จการศึกษา กรณีหลักสูตรเฉพาะของสถาบัน
þ ให้ปริญญาเพียงสาขาวิชาเดียว
o ให้ปริญญามากกว่าหนึ่งสาขาวิชา
กรณีหลักสูตรร่วมกับสถาบันอื่น
o ให้ปริญญาเพียงสาขาวิชาเดียว
และเป็นปริญญาของแต่ละสถาบัน
o ให้ปริญญาเพียงสาขาวิชาเดียว
และเป็นปริญญาร่วมกับ..............................................
o ให้ปริญญามากกว่าหนึ่งสาขาวิชา
6.
สถานภาพของหลักสูตรและการพิจารณาอนุมัติ/เห็นชอบหลักสูตร þ หลักสูตรปรับปรุง พุทธศักราช 2561
ปรับปรุงจากหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์
(หลักสูตรปรับปรุง 2556)
þได้ผ่านการกลั่นกรองหลักสูตรโดยคณะกรรมการการบริหารคณะรัฐประศาสนศาสตร์
ในการประชุมครั้งที่ 4 ปีการศึกษา 2560 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2560
þ
ได้รับการวิพากษ์หลักสูตรโดยคณะกรรมการที่มีผู้ทรงวุฒิตรงสาขาวิชาจากภายนอกในการประชุม
เมื่อวันที่ 23 กันยายน พ.ศ.2560
þ
ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการวิชาการระดับบัณฑิตศึกษาประจำมหาวิทยาลัย
ในการประชุมครั้งที่ 3 ปีการศึกษา 2560 เมื่อวันที่ 11ตุลาคม พ.ศ.2560
þ ได้รับอนุมัติหลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.2561
จากสภามหาวิทยาลัยพิษณุโลก ในการประชุมครั้งที่ 4ปีการศึกษา 2560 เมื่อวันที่ 15กุมภาพันธ์พ.ศ.2561
þ เปิดสอนภาคการศึกษา 1 ปีการศึกษา 2561
7.
ความพร้อมในการเผยแพร่หลักสูตรที่มีคุณภาพและมาตรฐาน หลักสูตรได้รับการเผยแพร่เป็นหลักสูตรที่มีคุณภาพและมาตรฐานตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับบัณฑิตศึกษา
สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ พ.ศ.2558 ในปีการศึกษา 2563
8. อาชีพที่สามารถประกอบได้หลังสำเร็จการศึกษา 8.1
อาจารย์ผู้สอนสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ 8.2
วิชาชีพที่ใช้ความรู้รัฐประศาสนศาสตร์ในการพัฒนางาน เช่น ข้าราชการตำรวจ
ทหาร เป็นต้น 8.3
นักการเมืองท้องถิ่นและส่วนราชการ 8.4
เจ้าหน้าที่ปกครองส่วนท้องถิ่น
10. สถานที่จัดการเรียนการสอน จัดการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยพิษณุโลก เลขที่ 93 หมู่ 5 ตำบลสมอแข
อำเภอเมือง
จังหวัดพิษณุโลก 65000
11.
สถานการณ์ภายนอกหรือการพัฒนาที่จำเป็นต้องนำมาพิจารณาในการวางแผนหลักสูตร
11.1
สถานการณ์หรือการพัฒนาทางเศรษฐกิจ
การวางแผนพัฒนาปรับปรุงหลักสูตรได้ดำเนินการให้เป็นไปตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ฉบับที่ 11 (2555-2559) ซึ่งกล่าวถึง
การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีในยุคโลกาภิวัฒน์
ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก มีการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี
รวมทั้งการขยายตัวของประชาคมอาเซียน
ส่งผลต่อรูปแบบการดำเนินชีวิตในสังคมของประชาชาติ
จึงจำเป็นต้องมีนักปกครองที่มีประสิทธิภาพมีนักกฎหมายที่มีศักยภาพและคุณภาพที่จะให้การช่วยเหลือ
ส่งเสริมสนับสนุนให้เศรษฐกิจการเมืองการปกครอง และประเทศชาติบ้านเมืองเป็นพลวัต
มีการขับเคลื่อนสู่ความเป็นสากลเป็นที่ยอมรับของอาณาประเทศ
จึงจำเป็นต้องจัดหาหลักสูตรการศึกษาให้สอดรับกับความต้องการบุคลากรของประเทศและทันต่อการเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างของสังคม
การเมือง และการปกครอง 11.2 สถานการณ์หรือการพัฒนาทางสังคมและวัฒนธรรม
การวางแผนพัฒนาปรับปรุงหลักสูตรคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงด้านสังคมในยุคโลกาภิวัฒน์และความต้องการของตลาดแรงงานเป็นสำคัญ
รวมทั้งการคำนึงถึงขีดความสามารถในการบริหารจัดการระบบการศึกษาของไทยที่มีนโยบายด้านการมีส่วนร่วมต่อสังคมและวัฒนธรรมในรูปแบบของการรับผิดชอบต่อสังคม
ซึ่งในปัจจุบันในหลาย ๆ
ประเภทก็ได้มีการให้ความสำคัญและในประเทศไทยก็มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องต่อความต้องการใช้งานบุคลากรที่มีความรู้สมัยใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการพัฒนาทางสังคมและวัฒนธรรม
ซึ่งจะนำไปสู่สังคมที่มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ทำให้เกิดความเข้มแข็งและการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้จำเป็นจะต้องใช้นักการปกครองที่ดี
สามารถตระหนักรับรู้ถึงความรับผิดชอบต่อสังคม
และการสร้างวัฒนธรรมองค์การที่มีคุณธรรมจริยธรรมที่จะช่วยชี้นำและขับเคลื่อนให้การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นไปในรูปแบบที่สอดคล้องและเหมาะสมกับวัฒนธรรมไทย
ทั้งในด้าน
วิถีชีวิตทางการศึกษาและวิถีความคิดแบบสังคมไทยที่สามารถอยู่ร่วมกับนานาอารยประเทศได้
12. ผลกระทบจากข้อ 11
ต่อการพัฒนาหลักสูตรและความเกี่ยวข้องกับพันธกิจของสถาบัน 12.1 การพัฒนาหลักสูตร
เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว
และมีการรวมกลุ่มประเทศ เพื่อการสร้างประชาคมความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการปกครอง
ทั้งในระดับภูมิภาค ทวีป และโลก จึงมีความสำคัญและจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงหลักสูตรให้มีความทันสมัยเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงและตอบสนองความต้องการศึกษาของคนภายในประเทศและประชาคมต่างประเทศตามช่วงเวลาที่เหมาะสม 12.2 ความเกี่ยวข้องกับพันธกิจของสถาบัน
มหาวิทยาลัยพิษณุโลกมีพันธกิจที่สำคัญคือการผลิตบัณฑิต
และพัฒนาบุคลากรในท้องถิ่น ให้มีความรู้และสมรรถนะตามวัตถุประสงค์ความต้องการของสังคมและผู้ใช้บัณฑิต
โดยเฉพาะบัณฑิตและบุคลากรสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ที่จะนำความรู้ความสามารถของสาขาวิชาไปใช้ในการบริหารจัดการชุมชนท้องถิ่นและองค์กรต่าง
ๆ ให้มีประสิทธิภาพและเกิดความเข้มแข็งเติบโตอย่างยั่งยืน
13.
ความสัมพันธ์กับหลักสูตรอื่นที่เปิดสอนในคณะ/ภาควิชาอื่นของสถาบัน (1)
ทุกรายวิชาในหลักสูตรหมวดวิชาเฉพาะรัฐประศาสนศาสตร์ไม่มีคณะ/ภาควิชาอื่นนำไปกไหนดในหลักสูตรของคณะ/ภาควิชา (2)
มีบางรายวิชาจากคณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการจัดการ และจากคณะบัญชี
ที่หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิตนำมาเป็นวิชาเลือก (3)
หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิตจำเป็นต้องใช้อาจารย์จากหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต
และหลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา
ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรมาเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาร่วมวิทยานิพนธ์และการค้นคว้าอิสระ
(IS)
หมวดที่ 2 ข้อมูลเฉพาะของหลักสูตร 1. ปรัชญา ความสำคัญ และวัตถุประสงค์ของหลักสูตร
1.1 ปรัชญาของหลักสูตร หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต
มีความมุ่งมั่นที่จะผลิตมหาบัณฑิตให้มีความเป็นเลิศ ในด้านความเป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม มีวิสัยทัศน์ มีความเป็นผู้นำ
มีความสามารถในการประยุกต์ใช้ องค์ความรู้ และนวัตกรรมใหม่ ๆ
ในสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์เพื่อสร้างความมั่นคงของชุมชนท้องถิ่นให้มีความทัดเทียมและสอดคล้องกับความเจริญก้าวหน้าในยุคโลกาภิวัตน์
และเป็นไปตามความต้องการของภาครัฐและเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
1.2
ความสำคัญของหลักสูตร
สถานการณ์การเมืองการปกครองในระดับท้องถิ่นยังขาดบุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจและ มีสมรรถนะทางด้านรัฐประศาสนศาสตร์ในเชิงปริมาณและคุณภาพเป็นอย่างมาก
จึงเป็นหน้าที่ของมหาวิทยาลัยที่จะพัฒนาหลักสูตรนี้
เพื่อการพัฒนาบุคลากรในท้องถิ่นให้มีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพในระดับประเทศและสากล
1.3
วัตถุประสงค์ของหลักสูตร เพื่อผลิตมหาบัณฑิตที่มีคุณลักษณะ
ดังนี้ (1)
มีคุณธรรม จริยธรรม มีความรับผิดชอบต่อสังคมและส่วนรวม
และสามารถปรับวิถีชีวิตภายใต้ความขัดแย้งทางค่านิยม
ตลอดจนพัฒนานิสัยในการประพฤติปฏิบัติในสังคมได้อย่างเหมาะสม (2) มีความรู้และทักษะทางรัฐประศาสนศาสตร์
รวมทั้งมีความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อเป็นพื้นฐานสำคัญที่นำไปสู่การสร้างนวัตกรรมทางรัฐประศาสนศาสตร์ (3)มีความสามารถในการจัดการความรู้เพื่อพัฒนาแนวคิดแนวปฏิบัติที่ดีในการนำไปปฏิบัติ
รวมทั้งใช้กระบวนการทางรัฐประศาสนศาสตร์
เรียนรู้ปัญหาและแก้ปัญหาที่มีความเป็นพลวัตรและมีความซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มีจรรยาบรรณวิชาชีพ ตลอดจนสามารถสร้างนวัตกรรมบนพื้นฐานแนวคิดและทฤษฎีทางรัฐประศาสนศาสตร์ได้ (4)
มีความสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมที่มีความหลากหลาย
รับฟังความคิดเห็นและแสดงความคิดเห็นได้อย่างสร้างสรรค์
มีภาวะผู้นำทางวิชาการและสามารถวิพากษ์บนฐานแนวคิด และทฤษฎีทางรัฐประศาสนศาสตร์
(5)
มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีการสืบค้นข้อมูล และสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รวมทั้งสามารถใช้เครื่องมือทางสถิติแก้ปัญหาทางการวิจัยได้ถูกต้อง
และประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ ปรากฏการณ์ทางรัฐประศาสนศาสตร์ได้อย่างเหมาะสม